News
เหตุการณ์โรคในประเทศ
สคร.9 เตือน เด็กเล็ก-นักเรียน ติดไข้หวัดใหญ่เพิ่ม แนะสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ร่วมกัน ย้ำ!! 7 กลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีน
03/10/2567 เหตุการณ์โรคในประเทศ
นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา กล่าวว่าช่วงนี้สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่มีแนวโน้นเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก และกลุ่มนักเรียน จึงขอให้ป้องกันตนเองไม่ให้ป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่โดยการล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีผู้คนแออัด หากจำเป็นต้องเข้าไปควรสวมหน้ากากทุกครั้ง เนื่องจากช่วงหน้าฝนเป็นฤดูกาลการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งโรคนี้สามารถติดต่อกันได้ทุกเพศทุกวัย และมักพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อน เช่น โรงเรียน เรือนจำ ค่ายทหาร หรือสถานที่ทำงาน อาการของผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ มีไข้สูง มีน้ำมูก ไอ เจ็บคอ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว ให้รีบพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาโดยเร็ว
สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ ในเขตสุขภาพที่ 9 ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม – 30 กันยายน พ.ศ. 2567 มีผู้ป่วย สะสมจำนวน 51,574 ราย เสียชีวิต 12 ราย แยกเป็นรายจังหวัด ดังนี้ 1) จ.นครราชสีมา มีผู้ป่วย 25,623 ราย เสียชีวิตสะสม 10 ราย 2) จ.สุรินทร์ มีผู้ป่วย 10,336 ราย 3) จ.บุรีรัมย์ มีผู้ป่วย 7,957 ราย 4) จ.ชัยภูมิ มีผู้ป่วย 7,658 ราย เสียชีวิตสะสม 2 ราย พบมากที่สุดในกลุ่มเด็ก คือ เด็กอายุ 4 ปี รองลงมาคือ กลุ่มเด็กอายุ 5-9 ปี และกลุ่มเด็กอายุ 3 ปี ตามลำดับ
นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน กล่าวต่อไปว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เป็นสิ่งที่จำเป็น โดยเฉพาะ7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี ทุกคน ผู้มีโรคเรื้อรัง ดังนี้ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน ผู้ที่อายุ 65 ปีขึ้นไป โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ) โรคอ้วน (น้ำหนัก> 100 กิโลกรัม หรือ BMI > 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร) และผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ที่มีความเสี่ยงสูงต่อภาวะป่วยหนักและเสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ ให้ไปรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ปีละ 1 ครั้งที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน และขอให้ดูแลรักษาอนามัยส่วนบุคคล เมื่ออยู่ในที่ที่มีคนรวมกลุ่มกันจำนวนมาก ให้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
แหล่งข้อมูล : https://ddc.moph.go.th/odpc9/news.php?news=46611&deptcode=odpc9&news_views=4