News

Home > News

News

เหตุการณ์โรคในต่างประเทศ
 

โควิดโอมิครอนสายพันธุ์ใหม่ “KP.3.1.1” ระบาดเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐ

icon 06/08/2567 เหตุการณ์โรคในต่างประเทศ
โควิดโอมิครอนสายพันธุ์ใหม่ “KP.3.1.1” ระบาดเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐ
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ก็ได้ โพสต์เฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics โอมิครอนสายพันธุ์ใหม่ KP.3.1.1 ขึ้นแท่นสายพันธุ์หลักในสหรัฐอเมริกา ที่ขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันโดยประมาณในสหรัฐฯ พุ่งสูงถึง 900,000 ราย ขณะที่สายพันธุ์ KP.3.1.1 กำลังจะกลายเป็นสายพันธุ์หลัก ตัวเลขนี้แสดงถึงการเพิ่มขึ้น 59% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในรอบ 12 เดือน โดยประมาณว่า 1 ใน 37 คนกำลังติดเชื้ออยู่ในปัจจุบัน
การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการแพร่เชื้อที่เพิ่มขึ้นของสายพันธุ์นี้ และความสำคัญของการรักษามาตรการด้านสาธารณสุข

การแพร่ระบาดและการกลายเป็นสายพันธุ์หลัก

โควิด-19 สายพันธุ์ KP.3.1.1 ได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐฯ โดยคิดเป็น 27.8% ของการติดเชื้อที่ตรวจพบ ตามการคาดการณ์ล่าสุดจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) สายพันธุ์นี้ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของ KP.3 ได้ก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญอย่างรวดเร็ว แซงหน้าสายพันธุ์อื่นๆ เช่น LB.1(16%) ซึ่งครองอันดับสามรองจาก KP.3 (20.1%) ในประเทศไทยสุ่มถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมพบโอมิครอน KP.3 จำนวน 8 ราย และ LB.1 จำนวน 2 ราย ยังไม่พบ KP.3.1.1

การกลายพันธุ์ที่เฉพาะเจาะจง

โอมิครอน KP.3.1.1 มีการกลายพันธุ์ที่สำคัญหลายประการซึ่งส่งผลให้มีความสามารถในการแพร่เชื้อและหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีการกลายพันธุ์ Q493E ซึ่งพบในสายพันธุ์ก่อนหน้าอย่างโอมิครอน KP.3 ด้วย นอกจากนี้ โอมิครอน KP.3.1.1 ยังมีการขาดหายของ S31 ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการหลบเลี่ยงการตอบสนองของภูมิคุ้มกันและเพิ่มความสามารถในการติดเชื้อ การกลายพันธุ์เหล่านี้เกิดขึ้นใกล้กับบริเวณจับกับตัวรับ (RBM) ของโปรตีนส่วนหนามไวรัส ส่งผลต่อความสามารถของไวรัสในการจับกับตัวรับ ACE2 บนผิวเซลลืได้ดีขึ้นและหลบเลี่ยงแอนติบอดีที่ทำหน้าที่ยับยั้งเชื้อ

**Q493E เป็นการกลายพันธุ์ที่เกิดขึ้นในโปรตีนหนามของไวรัส SARS-CoV-2 โดย:

 

  • Q คือกรดอะมิโนกลูตามีน (Glutamine)
  • E คือกรดอะมิโนกลูตามิก (Glutamic acid)
  • 493 คือตำแหน่งของกรดอะมิโนในลำดับสายโปรตีนที่กลายพันธุ์ (Q->E)

 

S31- หมายถึงการขาดหายไปของกรดอะมิโนในตำแหน่งที่ 31 ของโปรตีนหนาม โดย:

 

  • S คือกรดอะมิโนเซรีน (Serine)
  • 31 คือตำแหน่งของกรดอะมิโนในลำดับโปรตีนที่ขาดหายไป
  • เครื่องหมาย - แสดงถึงการขาดหายไปของกรดอะมิโน

 

การหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันและโอกาสในการติดเชื้อซ้ำ

สายพันธุ์โอมิครอนดั้งเดิมมีความสามารถในการหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันสูงมาก ทำให้ภูมิคุ้มกันของประชากรต่อสู้กับมันได้ยาก อย่างไรก็ตาม สายพันธุ์ KP.3.1.1 ในปัจจุบันไม่ได้แสดงระดับการหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันเท่ากับสายพันธุ์ดั้งเดิม เมื่อเทียบกับภูมิคุ้มกันของประชากรในปัจจุบัน หลังจากที่เราติดเชื้อโควิด-19 หรือได้รับวัคซีน ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำ โดยในช่วง 6 เดือนแรก ภูมิคุ้มกันของเราจะแข็งแรงมาก สามารถป้องกันการติดเชื้อได้สูงถึงมากกว่า 90% หมายความว่าโอกาสที่จะติดเชื้อซ้ำในช่วงนี้มีน้อยกว่า 10%

อย่างไรก็ตาม หลังจาก 6 เดือนไปแล้ว ภูมิคุ้มกันจะค่อยๆ ลดลงตามเวลา แต่โดยเฉลี่ยแล้ว เรายังคงมีภูมิคุ้มกันที่ช่วยป้องกันได้ต่อเนื่องไปจนถึงประมาณ 18 เดือน ซึ่งนี่คือระยะเวลาโดยเฉลี่ยระหว่างการติดเชื้อแต่ละครั้ง

ความเป็นไปได้ในการติดเชื้อซ้ำ

หากบุคคลเคยติดโอมิครอน KP.3 มาก่อน ในทางเทคนิคแล้วเป็นไปได้ที่จะติดเชื้อสายพันธุ์ KP.3.1.1 ซ้ำ แม้ว่าอาจมีการป้องกันในระยะสั้นบ้าง แต่ความสามารถในการหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันของสายพันธุ์ KP.3.1.1 สูงหมายความว่าการติดเชื้อซ้ำสามารถเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อภูมิคุ้มกันลดลงตามเวลา

การหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันของตระกูล KP

โอมิครอนสายตระกูล KP รวมถึง KP.3 และ KP.3.1.1 ถือเป็นสายพันธุ์ที่มีความสามารถในการหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันสูงที่สุดตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 มา นี่หมายความว่าบุคคลอาจติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ได้ในเวลาไม่นานหลังจากหายจากการติดเชื้อสายพันธุ์เดิม แม้ว่าการป้องกันบางส่วนอาจคงอยู่ประมาณ 6 สัปดาห์ แต่ความสามารถในการแพร่เชื้อสูงและการหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันของสายพันธุ์เหล่านี้บ่งชี้ว่าควรระมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีการแพร่ระบาดรุนแรง

ประสิทธิภาพของวัคซีน

วัคซีนปัจจุบันที่มุ่งเป้าไปที่สายพันธุ์ XBB.1.5 ของ COVID-19 ช่วยป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงในกลุ่มเสี่ยงสูง แต่ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อจากสายพันธุ์ล่าสุด รวมถึง KP.3.1.1 วัคซีนที่จะออกมาในฤดูใบไม้ร่วงซึ่งมุ่งเป้าไปที่โอมิครอนสายพันธุ์ KP.2 และ JN.1 คาดว่าจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นต่อ KP.3.1.1 เนื่องจากมีสายพันธุ์ที่ใกล้เคียงกัน

โดยสรุปแล้ว แม้ว่าโอมิครอนสายพันธุ์ KP.3.1.1 จะไม่สามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้เท่ากับสายพันธุ์โอมิครอนดั้งเดิมเมื่อเทียบกับภูมิคุ้มกันของประชากรในปัจจุบัน แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อซ้ำและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เราจึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำในการฉีดวัคซีนและแนวทางด้านสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบจากโอมิครอนสายพันธุ์ที่มีความสามารถในการแพร่เชื้อสูงเหล่านี้

 

แหล่งที่มา : https://www.pptvhd36.com/health/news/5684

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
เปิดใช้งานตลอด
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ ศูนย์รวมข้อมูลโรคติดต่อ เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ ศูนย์รวมข้อมูลโรคติดต่อ ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)
คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ ศูนย์รวมข้อมูลโรคติดต่อ ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของ ศูนย์รวมข้อมูลโรคติดต่อ รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ ศูนย์รวมข้อมูลโรคติดต่อ ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ ศูนย์รวมข้อมูลโรคติดต่อ ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้
คุกกี้เพื่อการใช้งานเว็บไซต์ (Functional Cookies)
คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เว็บไซต์ของ ศูนย์รวมข้อมูลโรคติดต่อ จดจำตัวเลือกต่าง ๆ ที่ท่านได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์ส่งมอบคุณสมบัติและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของท่านได้ เช่น ช่วยจดจำชื่อบัญชีผู้ใช้งานของท่าน หรือจดจำการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าขนาดฟอนต์หรือการตั้งค่าต่าง ๆ ของหน้าเพจซึ่งท่านสามารถปรับแต่งได้ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์
คุกกี้เพื่อการโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)
คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของ ศูนย์รวมข้อมูลโรคติดต่อ ทั้งนี้ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของ ศูนย์รวมข้อมูลโรคติดต่อ แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน
บันทึกการตั้งค่า