News

Home > News

News

เหตุการณ์โรคในประเทศ
 

สธ.ห่วงโรคระบาด ช่วงเด็กเปิดเทอม หลัง 5 เดือนพบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 1.4 แสนคน!

icon 19/05/2567 เหตุการณ์โรคในประเทศ
สธ.ห่วงโรคระบาด ช่วงเด็กเปิดเทอม หลัง 5 เดือนพบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 1.4 แสนคน!

แพทย์หญิงจุไร วงศ์สวัสดิ์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ผู้ช่วยอธิบดีกรมควบคุมโรค และนายแพทย์วีรวัฒน์ มโนสุทธิ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ โฆษกกรมควบคุมโรค ร่วมดำเนินการแถลงข่าว “รับมืออย่างไร โรคและภัยสุขภาพช่วงเปิดเทอม” พร้อมแนะนำประชาชน รวมถึงผู้ปกครองและคุณครู ถึงวิธีการรับมือโรคและภัยสุขภาพช่วงเปิดเทอมโดยระบุว่า

 

  • ไข้หวัดใหญ่  โรคประจำฤดูที่มักเกิดการระบาดในช่วงฤดูฝน ประกอบกับเป็นช่วงใกล้เปิดเทอม จึงขอเน้นย้ำให้ประชาชนดูแลตนเองและบุตรหลานอย่างใกล้ชิด ดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด

    ตั้งแต่ต้นปี 2567 พบผู้ป่วย จำนวน 144,574 ราย ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กเล็กและกลุ่มวัยเรียน ได้แก่

     

    • อายุแรกเกิด - 4 ปี (15%)
    • อายุ 10-14 ปี (14%)

     

    แนะนำประชาชนกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ปีละ 1 ครั้งช่วงก่อนฤดูกาลระบาดสามารถติดต่อเข้ารับวัคซีนได้ฟรีที่สถานพยาบาลของรัฐใกล้บ้าน

     

    • โควิด 19 ขอเน้นย้ำผู้ปกครองดูแลบุตรหลาน ดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (วันที่ 5 - 11 พฤษภาคม 2567) พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 ที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลจำนวน 1,880 ราย เฉลี่ย 269 รายต่อวัน ผู้ป่วยอาการรุนแรงปอดอักเสบ 588 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 237 ราย เสียชีวิต 11 ราย ผู้เสียชีวิตทุกรายเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และมีโรคเรื้อรัง ดังนั้นนอกจากดูแลบุตรหลานแล้ว ขอเน้นย้ำประชาชนรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด หากไปในสถานที่ปิดหรือแออัด ควรสวมหน้ากากอนามัย และล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 ถ้าจำเป็นต้องเข้าไปในพื้นที่ที่มีคนหมู่มาก ควรสวมหน้ากากอนามัยเสมอ และล้างมือบ่อยๆ หากป่วยให้รีบไปพบแพทย์
    • ไข้เลือดออก โรคที่มีการระบาดทุกปีในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่ต้นปีพบผู้ป่วย 27,334 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็ก 5-14 ปี จำนวน 8,033 ราย

     

    ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กนักเรียน และจากผลการสำรวจแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย พบสูงสุดในกลุ่มโรงเรียนและโรงธรรม จึงขอให้ทุกสถานศึกษาเร่งสำรวจและทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำทุกสัปดาห์ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่ระบาด สำหรับผู้เสียชีวิต 31 ราย พบเป็น เด็ก 11 ราย  ผู้ใหญ่ 20 ราย แนะนำ หากมีอาการไข้สูง ยาลดไข้ที่ปลอดภัยคือพาราเซตามอลในขนาดที่เหมาะสม และหากไข้ไม่ลดใน 1-2 วัน ควรรีบไปพบแพทย์

    ข้อมูลระบาดวิทยา เม.ย 67 โควิดสูง คาดหน้าฝนไวรัส-ไข้เลือดออกหนักขึ้น!

    สำหรับโรคอื่นๆ ที่มักพบมีการระบาดได้ช่วงเปิดเทอม ได้แก่

     

    • โรคมือ เท้า ปาก ติดต่อจากการได้รับเชื้อไวรัสเข้าทางปาก โดยเชื้อติดมากับมือหรือของเล่นที่เปื้อนน้ำมูก น้ำลาย ของผู้ป่วย หรือติดต่อจากการไอ จาม รดกัน ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กเล็ก จะมีอาการไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย ตุ่มแผลในปาก ทานไม่ได้ ร่วมกับอาจมีตุ่มพองเล็กๆ บริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า  หากอาการรุนแรงมีไข้ขึ้นสูง ซึมลง ชักเกร็ง หายใจหอบเหนื่อย อาเจียนมาก ต้องรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว ขอเน้นย้ำผู้ปกครองและครูช่วยกันดูแลสังเกตอาการเบื้องต้นของเด็ก หากมีอาการให้รีบพบแพทย์ หยุดเรียนจนกว่าจะหายตามดุลยพินิจของแพทย์ 
    • ท้องร่วงเฉียบพลัน จากการติดเชื้อ ส่วนใหญ่มักเกิดจากเชื้อไวรัส และแบคทีเรีย เกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัยโดยเฉพาะในเด็กวัยเรียน พบการระบาดได้ตลอดทั้งปี พื้นที่ที่มีคนอาศัยอยู่รวมกัน เช่น โรงเรียน สถานที่ท่องเที่ยว จะเกิดการระบาดได้ง่าย ผู้ป่วยจะมีอาการถ่ายเหลว ถ่ายเป็นน้ำ อาเจียน ปวดท้อง บางรายอาจมีไข้ น้ำมูกไหล หรือไอร่วมด้วย การป้องกัน ยึดหลัก “สุก ร้อน สะอาด” รับประทานอาหารปรุง สุก ใหม่ อาหารที่เก็บไว้นานเกิน 2 ชม. ต้องนำมาอุ่นร้อนให้ทั่วถึงก่อนกิน ขวดนม จุกนม ต้องล้างทำความสะอาดหลังการใช้ทันทีและฆ่าเชื้อโดยการต้มจนเดือดอย่างน้อย 10-15 นาที สอนให้เด็กล้างมือด้วยสบู่และน้ำให้สะอาดทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำ และโดยเฉพาะทุกครั้งก่อนหยิบจับอาหาร นักเรียนป่วยควรหยุดเรียน ผู้ใหญ่ควรหยุดงานและงดการปรุงประกอบอาหารจนกว่าจะหาย
    • โรคติดต่อในกลุ่มที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน เช่น หัด ไอกรน เป็นต้น ที่แพร่ระบาดทางระบบทางเดินหายใจ   ขอให้ผู้ปกครองเช็กประวัติวัคซีน หากเด็กได้รับวัคซีนไม่ครบตามกำหนดวัย ควรเข้ารับวัคซีนที่สถานพยาบาลใกล้บ้านให้ครบ 

     

    ซึ่งในช่วงเปิดเทอมนี้ แนะนำให้ทั้งนักเรียนและบุคลากรในโรงเรียนทุกคน รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล สวมใส่หน้ากากอนามัยในสถานที่ปิด (เช่นห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศ) และล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจ หรือที่มีไข้ออกผื่น หากป่วย ควรหยุดพักและรีบไปพบแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องนอกจากโรคที่ต้องป้องกันในช่วงเปิดเทอม เดือนพฤษภาคมนี้ ยังมีวันสำคัญที่เน้นย้ำการร่วมมือร่วมใจแก้ไขปัญหาสุขภาพที่สำคัญ ได้แก่ วันที่ 17 พฤษภาคม ที่จะถึงเป็นวันความดันโลหิตสูง ซึ่งปีนี้ให้ประเด็นรณรงค์ “วัดความดันอย่างไร สูงเกินไปคุมให้ดี ช่วยยืดชีวีให้ยืนยาว” โดยสถานการณ์ประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงมากถึง 14 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 25.4 (1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมด) ขึ้นทะเบียนรักษาเพียง 7 ล้านคน และผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาแต่ไม่สามารถควบคุมระดับความดันโลหิตได้มากถึง 2.8 ล้านคน ซึ่งอาจนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพอื่นตามมา เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ เป็นต้น และในวันที่ 31 พฤษภาคม เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก ประเด็นการรณรงค์ปีนี้คือ “บุหรี่ไฟฟ้าหยุดโกหกได้แล้ว” เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า ให้ประชาชนทุกเพศและทุกวัยได้รับรู้ เข้าใจ และไม่ริลองใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกรูปแบบ

แหล่งที่มา : https://www.pptvhd36.com/health/news/5304
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
เปิดใช้งานตลอด
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ ศูนย์รวมข้อมูลโรคติดต่อ เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ ศูนย์รวมข้อมูลโรคติดต่อ ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)
คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ ศูนย์รวมข้อมูลโรคติดต่อ ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของ ศูนย์รวมข้อมูลโรคติดต่อ รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ ศูนย์รวมข้อมูลโรคติดต่อ ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ ศูนย์รวมข้อมูลโรคติดต่อ ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้
คุกกี้เพื่อการใช้งานเว็บไซต์ (Functional Cookies)
คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เว็บไซต์ของ ศูนย์รวมข้อมูลโรคติดต่อ จดจำตัวเลือกต่าง ๆ ที่ท่านได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์ส่งมอบคุณสมบัติและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของท่านได้ เช่น ช่วยจดจำชื่อบัญชีผู้ใช้งานของท่าน หรือจดจำการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าขนาดฟอนต์หรือการตั้งค่าต่าง ๆ ของหน้าเพจซึ่งท่านสามารถปรับแต่งได้ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์
คุกกี้เพื่อการโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)
คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของ ศูนย์รวมข้อมูลโรคติดต่อ ทั้งนี้ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของ ศูนย์รวมข้อมูลโรคติดต่อ แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน
บันทึกการตั้งค่า